นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำนักงานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ขยายกรอบวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมอีก 3,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 2 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลากู้นานสูงสุด 7 ปี ปลอดชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน เพื่อเสริมสภาพคล่อง และช่วยฟื้นฟูธุรกิจผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มธุรกิจบีซีจี และอีก 10 กลุ่มธุรกิจ เช่น อุตสาหกรรมท่องเที่ยว อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูป อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง และอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เชื่อว่า จะสามารถไปต่อทุนที่ใช้ในการทำธุรกิจ ให้ธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถอยู่รอดได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย เกิดการจ้างงานไม่น้อยกว่า 10,000 อัตรา
“ที่ผ่านมากองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ได้ช่วยเสริมสภาพคล่อง และช่วยฟื้นฟูธุรกิจไปแล้ว วงเงินรวม3,000ล้านบาทแต่สถานการณ์ปัจจุบันที่รัฐบาลได้มีการผ่อนคลายมาตรการ และเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้มีผู้ประกอบการจำนวนมาก ยังต้องการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนในธุรกิจ ทางกระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้ขยายวงเงินเพิ่มเติมให้อีก 3,000 ล้านบาท เพื่อเข้าไปช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี”คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายเดชา จาตุธนานันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้อำนวยการกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ กล่าวว่า โครงการสินเชื่อสร้างโอกาสและเสริมสภาพคล่องเอสเอ็มอี จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงเงินทุน คาดว่าจะเปิดรับคำขอสินเชื่อผ่านช่องทางออนไลน์ประมาณช่วงเดือน ส.ค. นี้ ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ www.thaismefund.com
สำหรับทิศทางการทำงานของกองทุนฯ เน้นสนับสนุนสินเชื่อเพื่อช่วยยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เร่งผลักดันให้เกิดและเพิ่มจำนวนธุรกิจในกลุ่ม BCG ภายในประเทศให้มีจำนวนมากขึ้น ควบคู่กับการส่งเสริมเอสเอ็มอีให้ปรับตัวได้ในยุคนิวนอร์มัล รวมถึงการบูรณาการกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศในการจัดหาช่องทางการตลาดสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างมั่นคงคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง